เส้นทางสู่การเป็นผู้นำที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำไมผู้บริหารมือใหม่ถึงพลาดท่า และ 5 เคล็ดลับสู่การเป็นผู้นำที่เฉียบคม
การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหาร ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในชีวิตการทำงาน เป็นเครื่องหมายแห่งความไว้วางใจและความสามารถที่ได้รับการยอมรับ แต่ในความเป็นจริง เส้นทางสู่การเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้ราบรื่นเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้บริหารมือใหม่ ที่มักต้องเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคมากมาย จนนำไปสู่ความล้มเหลวในที่สุด
1. ขาดเข็มทิศนำทาง ประสบการณ์ผู้นำที่ยังอ่อนด้อย
ลองจินตนาการถึงกัปตันเรือที่เพิ่งเคยจับหางเสือเป็นครั้งแรก แม้เขาจะมีความรู้เรื่องกลไกเรือเป็นอย่างดี แต่การนำเรือฝ่าคลื่นลมในสถานการณ์ต่างๆ นั้นเป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่ต้องอาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้ เช่นเดียวกับผู้บริหารมือใหม่ ที่อาจจะมีความเชี่ยวชาญในสายงานของตน แต่การนำทีม การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และการแก้ไขปัญหาในภาพรวมนั้น เป็นสิ่งที่ต้องสั่งสมประสบการณ์
ตัวอย่าง วิศวกรหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีม แม้เขาจะมีความรู้ทางเทคนิคเป็นเลิศ แต่เมื่อต้องนำทีมแก้ไขปัญหาวิกฤต เขากลับไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด ขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และไม่สามารถสร้างขวัญกำลังใจให้กับทีมได้ จนสถานการณ์เลวร้ายลงในที่สุด
2. เปลี่ยนเกียร์ไม่ทัน การปรับตัวที่ยังไม่เข้าที่
การเปลี่ยนจาก “ผู้ปฏิบัติงาน” ไปสู่ “ผู้บริหาร” เป็นการเปลี่ยนแปลงบทบาทครั้งใหญ่ ที่ต้องปรับทั้ง Mindset ทักษะ และความรับผิดชอบ ผู้บริหารมือใหม่หลายคนยังคงติดกับบทบาทเดิม ชอบลงมือปฏิบัติงานเองทุกอย่าง ไม่ไว้วางใจลูกน้อง หรือไม่สามารถมองภาพรวมขององค์กรได้
ตัวอย่าง นักการตลาดมากฝีมือที่เพิ่งได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีม ยังคงลงไปดูแลทุกรายละเอียดของแคมเปญเอง ตั้งแต่การออกแบบกราฟิกไปจนถึงการเขียน Copywriting ทำให้เสียเวลาไปกับงานที่ไม่ควร และไม่มีเวลามากพอที่จะวางแผนกลยุทธ์ในภาพรวม หรือพัฒนาศักยภาพของทีม
3. กำแพงที่มองไม่เห็น ความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นกับลูกน้อง
ผู้นำที่ดีต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกน้อง สร้างความไว้วางใจ และเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริหารมือใหม่บางคนอาจเข้ามาด้วยท่าทีที่แข็งกระด้าง ไม่รับฟังความคิดเห็น หรือไม่ใส่ใจความเป็นอยู่ของลูกน้อง ทำให้เกิดความไม่พอใจ ขาดความร่วมมือ และส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของทีม
ตัวอย่าง ผู้จัดการฝ่ายขายคนใหม่ที่เข้ามาพร้อมกับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง โดยไม่เปิดโอกาสให้ทีมขายได้แสดงความคิดเห็น หรือทำความเข้าใจถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลง ทำให้ทีมรู้สึกต่อต้าน ขาดแรงจูงใจ และผลงานตกต่ำ
4. แบกทุกสิ่งไว้บนบ่า การมอบหมายงานที่ไม่เป็นผล
ผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพต้องรู้จักการมอบหมายงานให้กับลูกน้องอย่างเหมาะสม เพื่อให้ตนเองมีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญกว่า และเป็นการพัฒนาศักยภาพของทีมไปในตัว ผู้บริหารมือใหม่หลายคนมักไม่กล้าหรือไม่รู้วิธีการมอบหมายงาน กลัวว่าลูกน้องจะทำได้ไม่ดีเท่าตนเอง หรือรู้สึกว่าทำเองเร็วกว่า ทำให้ต้องแบกรับภาระงานทั้งหมดไว้คนเดียว จนเหนื่อยล้าและไม่มีประสิทธิภาพ
ตัวอย่าง หัวหน้าแผนกบัญชีมือใหม่ที่ยังคงตรวจเอกสารทุกฉบับด้วยตัวเอง แทนที่จะมอบหมายให้ลูกน้องที่มีความสามารถในงานนั้นๆ ช่วยดูแล ทำให้เธอต้องทำงานล่วงเวลาทุกวัน ไม่มีเวลาวางแผนการเงินในระยะยาว หรือพัฒนาทีมงาน
5. เมื่อพายุโหมกระหน่ำ การแก้ไขปัญหาที่ยังไม่เฉียบคม
ทุกองค์กรย่อมต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรค การเป็นผู้บริหารที่ดีคือสามารถรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นได้อย่างมีสติ แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และเรียนรู้จากความผิดพลาด ผู้บริหารมือใหม่บางคนอาจขาดประสบการณ์ในการวิเคราะห์ปัญหา ตัดสินใจภายใต้แรงกดดัน หรือไม่สามารถมองหาทางออกจากปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์
ตัวอย่าง ผู้จัดการโรงงานมือใหม่ที่ต้องเผชิญกับปัญหาเครื่องจักรขัดข้องครั้งใหญ่ แทนที่จะตั้งสติ วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาอย่างรอบคอบ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เขากลับตัดสินใจแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่ผิดพลาด ทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิมและเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น
5 บันไดสู่การเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง เคล็ดลับสำหรับผู้บริหารมือใหม่
แม้ว่าเส้นทางในช่วงแรกอาจเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ผู้บริหารมือใหม่สามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้ด้วยการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ผมขอเสนอคำแนะนำ 5 ประการที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
1. ศิลปะแห่งการกระจายอำนาจ การมอบหมายงานอย่างชาญฉลาด
เรียนรู้ที่จะมอบหมายงานให้กับลูกน้องตามความสามารถและความถนัด ให้โอกาสพวกเขาได้แสดงศักยภาพและเติบโต การมอบหมายงานที่มีประสิทธิภาพจะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณ และยังเป็นการสร้างความไว้วางใจและพัฒนาทีมงานไปพร้อมกัน
ตัวอย่าง แทนที่จะลงไปเขียนรายงานการประชุมเองทั้งหมด หัวหน้าทีมควรให้ผู้ช่วยที่มีทักษะด้านการเขียนเป็นผู้รับผิดชอบ และให้คำแนะนำหรือตรวจสอบในภายหลัง
2. ขอคำปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์ การเรียนรู้จากผู้นำรุ่นพี่
อย่าลังเลที่จะขอคำแนะนำจากผู้บริหารระดับสูง หรือผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า พวกเขาสามารถให้มุมมองที่แตกต่าง ถ่ายทอดบทเรียนที่เคยผ่านมา และเป็นที่ปรึกษาที่ดีในยามที่คุณเผชิญกับความท้าทาย การเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่นจะช่วยให้คุณก้าวข้ามอุปสรรคได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่าง ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลมือใหม่ที่กำลังเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งภายในทีม ควรขอคำปรึกษาจากผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในการจัดการความขัดแย้ง เพื่อเรียนรู้วิธีการไกล่เกลี่ยและสร้างความเข้าใจที่ดี
3. สร้างความเชื่อมั่นด้วยการกระทำ การเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือ
แสดงความมั่นใจในการตัดสินใจและการกระทำของคุณ สื่อสารวิสัยทัศน์และเป้าหมายของทีมอย่างชัดเจน และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง การเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือจะสร้างแรงบันดาลใจและความเคารพจากทีมงาน
ตัวอย่าง เมื่อต้องนำเสนอโครงการใหม่ต่อผู้บริหารระดับสูง หัวหน้าทีมควรเตรียมตัวให้พร้อม แสดงความเชื่อมั่นในแนวคิดของตนเอง และตอบคำถามได้อย่างชัดเจนและมีเหตุผล
4. มองภาพใหญ่ เข้าใจเป้าหมายรวม การคิดเชิงกลยุทธ์
ฝึกฝนการมองภาพรวมขององค์กร เข้าใจเป้าหมายและทิศทางในระยะยาว อย่าจมอยู่กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่ให้ความสำคัญกับการวางแผนกลยุทธ์และการตัดสินใจที่จะส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของทีมและองค์กรในภาพรวม
ตัวอย่าง ผู้จัดการฝ่ายผลิตควรเข้าใจเป้าหมายการเติบโตของบริษัท และวางแผนกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคต ไม่ใช่แค่โฟกัสกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในแต่ละวัน
5. ให้และรับฟังอย่างสร้างสรรค์ การสื่อสารสองทางที่มีคุณค่า
ให้ข้อเสนอแนะ (Feedback) ที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์แก่ลูกน้อง เพื่อช่วยให้พวกเขาพัฒนาตนเอง และเปิดใจรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อกังวลจากทีมงานอย่างจริงใจ การสื่อสารสองทางที่มีประสิทธิภาพจะสร้างความเข้าใจที่ดีและความร่วมมือในทีม
ตัวอย่าง เมื่อลูกน้องทำงานได้ดี ควรกล่าวชมเชยอย่างเฉพาะเจาะจงถึงสิ่งที่เขาทำได้ดี และเมื่อมีข้อผิดพลาด ควรให้คำแนะนำอย่างสร้างสรรค์ถึงแนวทางการปรับปรุง
บทสรุป การเดินทางที่ต้องอาศัยการเรียนรู้และเติบโต
การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ต้องอาศัยการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารมือใหม่ทุกคนย่อมมีโอกาสที่จะพบกับความท้าทายและความผิดพลาด แต่สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านั้น ปรับปรุงทักษะความเป็นผู้นำ และมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน ด้วยความเข้าใจในสาเหตุของความล้มเหลว และการนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ ผู้บริหารมือใหม่จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรค และนำทีมไปสู่ความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
สามารถฟังเนื้อหาเพิ่มเติมได้จาก ทำไมผู้บริหารมือใหม่ส่วนใหญ่มักล้มเหลว The Secret Sauce EP.337
หากต้องการอ่านบทความอื่นของเรา สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่นี่



