E-E-A-T สำคัญแค่ไหนสำหรับ SEO ปีนี้? แนวทางที่นักการตลาดต้องรู้!
รู้จักกับ E-E-A-T ปัจจัยชี้ชะตา SEO
หากคุณอยู่ในวงการ SEO มาสักพัก คงเคยได้ยินคำว่า E-A-T ซึ่งหมายถึง Expertise (ความเชี่ยวชาญ), Authoritativeness (ความน่าเชื่อถือ), Trustworthiness (ความน่าไว้วางใจ) ซึ่งเป็นแนวทางที่ Google ใช้พิจารณาคุณภาพของเว็บไซต์ แต่ล่าสุด Google ได้เพิ่มตัว E ตัวใหม่เข้ามา กลายเป็น E-E-A-T โดยที่ E ตัวแรกหมายถึง Experience (ประสบการณ์)
การเพิ่ม Experience (ประสบการณ์) เข้าไปหมายความว่า Google ต้องการให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่ถูกเขียนหรือให้ข้อมูลโดยบุคคลที่มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญทางทฤษฎีเพียงอย่างเดียว เช่น หากมีบทความเกี่ยวกับการปีนเขา คนที่เคยปีนเขาจริง ๆ ย่อมมีน้ำหนักมากกว่านักเขียนที่อาศัยการค้นคว้าข้อมูลเพียงอย่างเดียว
ทำไม E-E-A-T ถึงสำคัญต่อ SEO?
ในปีนี้ Google ยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหาและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์เป็นอันดับต้น ๆ การให้ความสำคัญกับ E-E-A-T ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่ออัลกอริทึมที่จัดอันดับเว็บไซต์ แต่เป็นแนวทางที่ Google ใช้ในการประเมินคุณภาพของคอนเทนต์ หากเว็บไซต์ของคุณไม่มี E-E-A-T ที่ดี อาจส่งผลต่อความสามารถในการติดอันดับในหน้าแรกของ Google
ลองจินตนาการว่าคุณกำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ “สุขภาพ” บน Google คุณอยากได้ข้อมูลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ตรง หรือจากเว็บไซต์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ? นี่คือเหตุผลว่าทำไม Google จึงให้ความสำคัญกับ E-E-A-T เพราะต้องการให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและมีคุณภาพมากที่สุด
ข้อเสียของ E-E-A-T ที่ต้องพิจารณา
แม้ว่าการมี E-E-A-T จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ แต่ก็มีข้อเสียบางอย่างที่ควรคำนึงถึง:
- ยากต่อผู้เริ่มต้น – เว็บไซต์ใหม่หรือธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นอาจต้องใช้เวลาในการสร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างโปรไฟล์ที่ Google มองว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
- ต้องใช้เวลาและความพยายาม – การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่มีทั้ง Expertise, Experience, Authoritativeness และ Trustworthiness ต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ซึ่งอาจใช้เวลานาน
- ต้องมีการอัปเดตเนื้อหาอยู่เสมอ – Google ให้ความสำคัญกับความสดใหม่ของข้อมูล ดังนั้นเว็บไซต์ที่ละเลยการอัปเดตเนื้อหาจะมีโอกาสถูกลดอันดับ
หลักการของ E-E-A-T ที่คุณควรนำไปใช้
- เน้นการสร้างเนื้อหาจากผู้มีประสบการณ์จริง
- ใช้ข้อมูลจากแหล่งที่มีประสบการณ์ตรง เช่น บทสัมภาษณ์ รีวิว หรือเคสศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
- เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียน (Author Bio) เพื่อให้เห็นว่าผู้เขียนมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ จริง ๆ
- เสริมความน่าเชื่อถือ (Authoritativeness)
- หากคุณเป็นธุรกิจหรือเว็บไซต์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ควรมี Backlink จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
- ใช้การอ้างอิงจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น งานวิจัย เว็บไซต์หน่วยงานรัฐบาล หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง
- สร้างความไว้วางใจ (Trustworthiness)
- ใช้ HTTPS เพื่อให้เว็บไซต์ปลอดภัย
- มีข้อมูลติดต่อที่ชัดเจน และแสดงนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกมั่นใจ
- หลีกเลี่ยงการใช้เนื้อหาที่เป็นคลิกเบท (Clickbait) หรือเนื้อหาที่ไม่มีความถูกต้อง
- ทำให้เนื้อหาของคุณโดดเด่น
- ใช้รูปภาพ วิดีโอ หรืออินโฟกราฟิกเพื่อเสริมความเข้าใจ
- เขียนเนื้อหาให้อ่านง่าย ใช้ภาษาที่กระชับและชัดเจน
- จัดโครงสร้างบทความให้เป็นระเบียบ ใช้หัวข้อย่อย (H2, H3) เพื่อให้ Google และผู้ใช้งานอ่านง่ายขึ้น
สรุป E-E-A-T คือปัจจัยที่ช่วยให้ SEO แข็งแกร่งขึ้น
การให้ความสำคัญกับ E-E-A-T จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับบน Google ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเนื้อหาของคุณมีคุณภาพและได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้
แม้ว่าการสร้าง E-E-A-T ให้แข็งแกร่งจะใช้เวลาและความพยายาม แต่หากคุณสามารถปรับตัวและสร้างเนื้อหาที่น่าเชื่อถือและมีคุณค่า ก็จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในสายตาของ Google และผู้ใช้งานอย่างแน่นอน
หากต้องการอ่านบทความอื่นของเรา สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่นี่