DeepSeek คืออะไร AI ที่มาแรงปี 2025

DeepSeek คืออะไร

deepseek
deepseek

DeepSeek คือบริษัท Startup ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากประเทศจีน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2023 โดย Liang Wenfeng อดีตผู้จัดการกองทุน Quantitative Hedge Fund ชื่อดังอย่าง High-Flyer จุดกำเนิดของ DeepSeek เกิดจากวิสัยทัศน์ของ Liang Wenfeng ที่เล็งเห็นศักยภาพอันมหาศาลของ AI และต้องการทำให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นในราคาที่จับต้องได้ โดยสามารถทดลองใช้งานได้ที่นี้ https://www.deepseek.com/

Thanks image for : https://www.linkedin.com/posts/geniusworks_deepseeks-40-year-old-ceo-liang-wenfeng-activity-7289790584830001153-5Owr/

เหลียง เหวินเฟิงเป็นใคร

เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) คือผู้ก่อตั้งและ CEO ของ DeepSeek AI บริษัท Startup ด้าน AI จากประเทศจีน เขาเกิดในช่วงปี 1980 ในเมืองเล็กๆ ในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง โดยพ่อของเขาเป็นครูสอนระดับประถมศึกษา

เส้นทางสู่ความสำเร็จ

  • การศึกษา ด้วยความที่เป็นคนเรียนเก่ง เหลียง เหวินเฟิง จึงสามารถสอบเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University) ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งนี้
  • ก้าวแรกสู่โลกการเงิน หลังจากจบการศึกษา เหลียง เหวินเฟิง ได้ร่วมกับเพื่อน ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ชื่อ High-Flyer ในปี 2015 โดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจลงทุน กองทุนนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถบริหารสินทรัพย์ได้ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลาไม่กี่ปี
  • จุดประกายแห่ง AI แม้จะประสบความสำเร็จในโลกการเงิน แต่เหลียง เหวินเฟิง ก็ยังคงสนใจในเทคโนโลยี AI เขาเริ่มศึกษา วิจัย และพัฒนา AI ด้วยตัวเอง โดยใช้เวลาว่างจากงานประจำ
  • กำเนิด DeepSeek AI ในปี 2023 เหลียง เหวินเฟิง ตัดสินใจลาออกจาก High-Flyer และก่อตั้ง DeepSeek AI ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ AI เข้าถึงได้ง่าย และมีราคาที่จับต้องได้

บุคลิกและวิสัยทัศน์

เหลียง เหวินเฟิง เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และมีความหลงใหลในเทคโนโลยี เขามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และเชื่อมั่นในศักยภาพของ AI เขาต้องการที่จะใช้ AI เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

เกร็ดน่ารู้

  • เหลียง เหวินเฟิง มักถูกเรียกว่าเป็น “อัจฉริยะ” เนื่องจากความสามารถในการเรียนรู้ และการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ
  • เขามีบุคลิกที่เรียบง่าย และไม่ชอบเป็นจุดสนใจ
  • เขาให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา และเชื่อว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคต

ข้อได้เปรียบของ DeepSeek AI

แม้จะเป็นบริษัทน้องใหม่ แต่ DeepSeek กลับสร้างความฮือฮาให้กับวงการ AI ทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ DeepSeek-R1 ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ OpenAI’s Model o1 แต่ใช้ต้นทุนในการพัฒนาน้อยกว่ามาก ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการทุ่มเทวิจัยและพัฒนาอย่างหนักของทีมงาน DeepSeek ที่มีจำนวนเพียง 200 คน รวมถึงการเลือกใช้สถาปัตยกรรมแบบ Mixture of Experts (MoE) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการประมวลผล และนี่คือข้อได้เปรียบของ DeepSeek ครับ

  • ประสิทธิภาพสูง DeepSeek-R1 มีความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ใกล้เคียงกับ โมเดลภาษาชั้นนำอย่าง GPT-4 สามารถเข้าใจ ตีความ และสร้างข้อความที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ
  • ต้นทุนต่ำ DeepSeek-R1 ใช้ต้นทุนในการพัฒนาน้อยกว่าโมเดลอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน ทำให้สามารถนำเสนอบริการในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า
  • เข้าถึงง่าย DeepSeek เปิดให้บริการผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และ API ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง AI ได้สะดวก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
  • พัฒนาอย่างต่อเนื่อง DeepSeek ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาโมเดล AI ให้มีความสามารถยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของ DeepSeek AI

DeepSeek AI มีประโยชน์มากมาย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย เช่น

  • การเขียนโค้ด DeepSeek Coder ช่วยให้นักพัฒนาเขียนโค้ดได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การแปลภาษา DeepSeek สามารถแปลภาษาได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้การสื่อสารไร้พรมแดน
  • การสร้างเนื้อหา DeepSeek สามารถสร้างเนื้อหาต่างๆ เช่น บทความ บทกวี สคริปต์ เป็นต้นๅ
  • การตอบคำถาม DeepSeek สามารถตอบคำถามได้อย่างชาญฉลาด ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น
  • การสนทนา DeepSeek สามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ความเก่งของ DeepSeek AI

  • ความสามารถในการเรียนรู้ DeepSeek-R1 ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้สามารถเรียนรู้และเข้าใจภาษาได้อย่างลึกซึ้ง
  • ความสามารถในการให้เหตุผล DeepSeek-R1 สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและให้เหตุผลได้อย่างมีตรรกะ
  • ความสามารถในการสร้างสรรค์ DeepSeek-R1 สามารถสร้างเนื้อหาที่แปลกใหม่และน่าสนใจ

ความน่าสนใจของ DeepSeek AI

  • เป็น AI จากประเทศจีน: DeepSeek เป็นหนึ่งใน AI ชั้นนำจากประเทศจีน ที่กำลังท้าทายความเป็นผู้นำของ AI จากฝั่งตะวันตก
  • เติบโตอย่างรวดเร็ว: DeepSeek ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • มีศักยภาพในการพัฒนา: DeepSeek ยังคงพัฒนาโมเดล AI อย่างต่อเนื่อง และมีแผนที่จะขยายการให้บริการไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ทำไมหุ้นบริษัทชิปถึงตกลงหลังจาก DeepSeek เปิดตัว?

การเปิดตัว DeepSeek-R1 โมเดล AI สัญชาติจีนสุดล้ำ ส่งคลื่นสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ไม่เพียงแต่เขย่าวงการเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิป (chipmakers) ที่ราคาร่วงระนาว สร้างความตื่นตระหนกแก่นักลงทุนทั่วโลก บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกสาเหตุที่แท้จริงเบื้องหลังปรากฏการณ์นี้ พร้อมวิเคราะห์ผลกระทบในระยะยาว

DeepSeek-R1: AI ราคาประหยัด สั่นคลอนบัลลังก์ยักษ์ใหญ่

DeepSeek-R1 คือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model: LLM) ที่พัฒนาโดย DeepSeek AI บริษัท Startup จากจีน สิ่งที่ทำให้ DeepSeek-R1 แตกต่างและโดดเด่นกว่า AI เจ้าอื่นๆ คือ ประสิทธิภาพอันน่าทึ่งทัดเทียมกับ OpenAI’s Model o1 แต่กลับใช้ต้นทุนในการพัฒนาน้อยกว่ามาก

ความลับของความสำเร็จนี้ซ่อนอยู่ในสถาปัตยกรรมแบบ Mixture of Experts (MoE) ที่ DeepSeek เลือกใช้ MoE ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลและลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ หมายความว่า DeepSeek สามารถนำเสนอ AI ที่ทรงพลังในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าคู่แข่ง

ผลกระทบต่อตลาดหุ้น หุ้นบริษัทชิปดิ่งเหว

การเปิดตัว DeepSeek-R1 สร้างความปั่นป่วนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิปที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ยกตัวอย่างเช่น

  • Nvidia: ราคาร่วงลงกว่า 17% มูลค่าตลาดหายไปเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์
  • Broadcom: ราคาร่วงลงกว่า 18%
  • AMD: ราคาร่วงลงกว่า 10%
  • ความกังวลเรื่องความต้องการชิปลดลง DeepSeek-R1 ใช้ชิปน้อยกว่าในการพัฒนา AI เมื่อเทียบกับโมเดลอื่นๆ ทำให้เกิดความกังวลว่าความต้องการชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) อาจลดลงในอนาคต
  • ความกังวลเรื่องการแข่งขัน DeepSeek เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของบริษัท AI ชั้นนำ เช่น OpenAI และ Google การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และผลกำไรของบริษัทเหล่านี้
  • ความไม่แน่นอน DeepSeek เป็นบริษัทใหม่ ยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะประเมินศักยภาพและผลกระทบในระยะยาว ความไม่แน่นอนนี้ทำให้นักลงทุนบางส่วนตัดสินใจขายหุ้น

วิเคราะห์ผลกระทบในระยะยาว

แม้การเปิดตัว DeepSeek-R1 จะสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในตลาดหุ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า ผลกระทบในระยะยาวอาจไม่รุนแรงอย่างที่กังวล

  • ความต้องการชิปยังคงเติบโต แม้ DeepSeek-R1 จะใช้ชิปน้อยลง แต่ความต้องการชิปโดยรวมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก AI ถูกนำไปใช้งานในด้านต่างๆ มากขึ้น
  • การแข่งขันส่งผลดีต่อผู้บริโภค การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น จะช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และทำให้ AI มีราคาถูกลง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
  • โอกาสใหม่ๆ สำหรับบริษัทชิป DeepSeek-R1 อาจเป็นแรงบันดาลใจให้บริษัทชิป พัฒนาชิปที่เหมาะสมกับ AI มากขึ้น

การเปิดตัว DeepSeek-R1 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยีและตลาดหุ้น แม้ในระยะสั้น หุ้นบริษัทชิปจะได้รับผลกระทบ แต่ในระยะยาว AI จะยังคงเป็นเทคโนโลยีที่มีอนาคตสดใส และจะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับบริษัทชิปในอนาคต

สิ่งที่นักลงทุนควรทำ

  • ศึกษาข้อมูล: ติดตามข่าวสาร และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ DeepSeek และ AI อย่างใกล้ชิด
  • กระจายความเสี่ยง: ลงทุนในหุ้นหลากหลายกลุ่ม เพื่อลดความเสี่ยง
  • มองหาโอกาส: มองหาโอกาสในการลงทุนในบริษัทชิป ที่สามารถปรับตัวและพัฒนาชิปใหม่ๆ คุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง

DeepSeek ในการแข่งขันด้าน AI ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา

การแข่งขันด้านเทคโนโลยี AI ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกากำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ เปรียบเสมือนสนามประลองยุทธ ที่สองมหาอำนาจต่างงัดกลยุทธ์ และอาวุธ ออกมาต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ท่ามกลางสมรภูมิอันร้อนระอุนี้ DeepSeek AI บริษัท Startup จากจีน ได้ก้าวขึ้นมาเป็น “ม้ามืด” พร้อมท้าทายอำนาจ AI ของสหรัฐฯ ด้วยการเปิดตัว DeepSeek-R1 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ ที่ทรงพลัง และมีราคาถูกกว่า AI เจ้าอื่นๆ

DeepSeek คือ จุดเปลี่ยนสมดุลอำนาจ AI

DeepSeek ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริษัท AI หน้าใหม่ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI ของจีน ที่กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด การมาของ DeepSeek ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสมดุลอำนาจ AI ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในหลายด้าน ดังนี้

  • ท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ: เป็นเวลานานที่สหรัฐฯ ครองความเป็นผู้นำในด้าน AI ด้วยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น Google, Microsoft, และ OpenAI DeepSeek ได้เข้ามาท้าทายความเป็นผู้นำนี้ ด้วยการแสดงให้เห็นว่า จีนก็สามารถพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพสูงได้
  • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของจีน: DeepSeek ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของจีน ในตลาด AI โลก ด้วยการนำเสนอ AI ที่มีราคาถูกกว่า และเข้าถึงได้ง่ายกว่า
  • กระตุ้นให้เกิดการพัฒนา AI อย่างรวดเร็ว: การแข่งขันระหว่าง DeepSeek และบริษัท AI ของสหรัฐฯ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา AI อย่างรวดเร็ว และนำไปสู่ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ราคาถูกลง และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

กลยุทธ์ของ DeepSeek ในการแข่งขัน

DeepSeek ใช้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาด ในการแข่งขันกับบริษัท AI ของสหรัฐฯ

  • เน้นที่ประสิทธิภาพและราคา: DeepSeek พัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มีราคาถูกกว่า AI ของคู่แข่ง เพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน
  • เน้นการเข้าถึงง่าย: DeepSeek เปิดให้บริการ AI ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และ API ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง AI ได้สะดวก
  • เน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง: DeepSeek ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนา AI ให้มีความสามารถยิ่งขึ้น

ผลกระทบของ DeepSeek ต่อการแข่งขันของบริษัท AI

DeepSeek ได้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อการแข่งขัน AI ระหว่างจีนและสหรัฐฯ

  • การแข่งขันด้านราคา: DeepSeek บีบบริษัท AI ของสหรัฐฯ ให้ต้องลดราคา AI ลง เพื่อแข่งขัน
  • การแข่งขันด้านนวัตกรรม: DeepSeek กระตุ้นให้บริษัท AI ของสหรัฐฯ ต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำ
  • การแข่งขันด้านการเข้าถึงตลาด: DeepSeek ขยายตลาด AI ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทำให้บริษัท AI ของสหรัฐฯ ต้องแข่งขัน เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด

อนาคตของ DeepSeek และการแข่งขัน AI

DeepSeek มีศักยภาพที่จะกลายเป็นผู้นำในวงการ AI โลก ในอนาคต

  • การเติบโตอย่างรวดเร็ว DeepSeek มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมอย่างมาก
  • การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน DeepSeek ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ในการวิจัยและพัฒนา AI
  • ความมุ่งมั่นในการพัฒนา DeepSeek ยังคงมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนา AI อย่างต่อเนื่อง

การแข่งขัน AI ระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะยังคงดุเดือดต่อไป และ DeepSeek จะเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญ ที่จะกำหนดทิศทางของวงการ AI โลก ในอนาคต

DeepSeek คือสัญลักษณ์ของการผงาดขึ้นของจีน ในฐานะมหาอำนาจด้าน AI DeepSeek ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจ AI โลก และจะยังคงมีบทบาทสำคัญ ในการขับเคลื่อนวงการ AI ให้ก้าวหน้าต่อไป

ความท้าทายของ DeepSeek

แม้ DeepSeek AI จะสร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการเทคโนโลยีด้วย DeepSeek-R1 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ทรงพลังและราคาประหยัด แต่เบื้องหลังความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้ DeepSeek ก็ยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดและความท้าทายบางประการ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตและการแข่งขันในตลาด AI โลก

  1. ข้อจำกัดด้านทรัพยากร
      • การเข้าถึงชิปประมวลผลขั้นสูง DeepSeek ถูกจำกัดการเข้าถึงชิปประมวลผลขั้นสูง เช่น NVIDIA A100 เนื่องจากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ทำให้ DeepSeek ต้องพึ่งพาชิปรุ่นเก่า หรือ ชิปจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น AMD ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการพัฒนาและฝึกฝน AI
      • การเข้าถึงข้อมูล DeepSeek อาจมีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบางประเภท เช่น ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ข้อมูลทางการแพทย์ หรือ ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการพัฒนา AI ในบางสาขา
  2. ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
    • ความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน: DeepSeek-R1 ยังมีข้อจำกัดในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น การแปลภาษา และ การเขียนโค้ด ในเวลาเดียวกัน
    • ความสามารถในการให้เหตุผลเชิงตรรกะ: DeepSeek-R1 ยังมีข้อจำกัดในการให้เหตุผลเชิงตรรกะ ในบางสถานการณ์ เช่น การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือ การวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน
    • ความสามารถในการเข้าใจอารมณ์: DeepSeek-R1 ยังมีข้อจำกัดในการเข้าใจอารมณ์ และ ความรู้สึกของมนุษย์
  3. ข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรม
    • ความเชี่ยวชาญด้านภาษาจีน: DeepSeek-R1 ถูกพัฒนาโดยเน้นที่ภาษาจีน ทำให้ AI อาจมีความเชี่ยวชาญ และ ความแม่นยำสูง ในภาษาจีน มากกว่าภาษาอื่นๆ
    • ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่แตกต่าง: DeepSeek-R1 อาจมีข้อจำกัดในการเข้าใจ และ ตีความ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และ บริบททางสังคม ที่แตกต่างกัน
  4. ข้อจำกัดด้านจริยธรรมและความปลอดภัย
    • การป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด: DeepSeek ต้องมีมาตรการที่เข้มงวด ในการป้องกันการใช้งาน AI ในทางที่ผิด เช่น การสร้างข่าวปลอม การโจมตีทางไซเบอร์ หรือ การเลือกปฏิบัติ
    • การรับมือกับปัญหา Bias ใน AI: DeepSeek ต้องพัฒนา AI ให้มีความเป็นกลาง และ ปราศจากอคติ เพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติ และ ความไม่เท่าเทียม
    • การจัดการข้อมูลผู้ใช้งาน: DeepSeek ต้องมีนโยบายที่ชัดเจน ในการจัดการข้อมูลผู้ใช้งาน เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

แนวทางในการก้าวข้ามขีดจำกัด

  • การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา: DeepSeek ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในการวิจัยและพัฒนา AI เพื่อพัฒนา AI ให้มีความสามารถ และ ประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • การสร้างความร่วมมือ: DeepSeek ควรสร้างความร่วมมือกับ นักวิจัย, นักพัฒนา, และ องค์กรต่างๆ ทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และ พัฒนา AI ร่วมกัน
  • การเปิดรับฟังความคิดเห็น: DeepSeek ควรเปิดรับฟังความคิดเห็น และ ข้อเสนอแนะ จากผู้ใช้งาน เพื่อพัฒนา AI ให้ตอบสนองความต้องการ และ แก้ปัญหา ของผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
  • การกำหนดนโยบาย และ มาตรฐาน: DeepSeek ควร กำหนดนโยบาย และ มาตรฐาน ในการพัฒนา และ ใช้งาน AI ที่ชัดเจน เพื่อส่งเสริม จริยธรรม ความปลอดภัย และ ความรับผิดชอบต่อสังคม

DeepSeek แม้จะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ก็ยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัด และ ความท้าทาย ในการพัฒนา และ การแข่งขัน AI DeepSeek จำเป็นต้อง พัฒนา AI ให้มีความสามารถ และ ประสิทธิภาพสูงขึ้น รับมือกับปัญหา ด้านจริยธรรม และ ความปลอดภัย รวมถึง สร้างความร่วมมือกับ ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด และ เติบโตอย่างยั่งยืน ในตลาด AI โลก

DeepSeek ปะทะ AI ยักษ์ใหญ่ ศึกชิงบัลลังก์แห่งโลกปัญญาประดิษฐ์

DeepSeek AI สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการเทคโนโลยีด้วย DeepSeek-R1 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ท้าชนเจ้าตลาดอย่าง GPT-4 แต่ DeepSeek ไม่ได้ยืนหยัดอยู่เพียงลำพัง ในโลกของ AI ยังมีผู้เล่นรายอื่น ๆ อีกมากมาย บทความนี้จะพาคุณไปเปรียบเทียบ DeepSeek กับ AI เจ้าอื่น ๆ วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และโอกาสในการแข่งขันของ DeepSeek ในสนามรบ AI ที่ดุเดือด

DeepSeek vs. ChatGPT (OpenAI)

ChatGPT คือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย OpenAI ได้รับความนิยมอย่างมากจากความสามารถในการสนทนาโต้ตอบ สร้างเนื้อหา และตอบคำถาม

  • จุดแข็งของ DeepSeek:
    • ต้นทุนต่ำกว่า: DeepSeek-R1 ใช้ต้นทุนในการพัฒนาน้อยกว่า ChatGPT ทำให้สามารถนำเสนอบริการในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า
    • เข้าถึงง่ายกว่า: DeepSeek เปิดให้บริการผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และ API ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง AI ได้สะดวกกว่า
    • พัฒนาอย่างรวดเร็ว: DeepSeek มีทีมงานขนาดเล็ก แต่มีความคล่องตัวสูง ทำให้สามารถพัฒนา AI ได้อย่างรวดเร็ว
  • จุดแข็งของ ChatGPT:
    • ความสามารถในการสนทนา: ChatGPT มีความสามารถในการสนทนาโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติ คล้ายกับมนุษย์
    • ความสามารถในการสร้างเนื้อหา: ChatGPT สามารถสร้างเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น บทความ บทกวี สคริปต์
    • ความเข้าใจในภาษาอังกฤษ: ChatGPT มีความเชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษมากกว่า DeepSeek-R1

DeepSeek vs. Bard (Google AI)

Bard คือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย Google AI มีความสามารถหลากหลาย เช่น การสร้างข้อความ, การแปลภาษา, การเขียนโค้ด, และ การตอบคำถาม

  • จุดแข็งของ DeepSeek:
    • ต้นทุนต่ำกว่า: เช่นเดียวกับ ChatGPT, DeepSeek-R1 ใช้ต้นทุนในการพัฒนาน้อยกว่า Bard
    • ความเร็วในการประมวลผล: DeepSeek-R1 อาจมีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงกว่า Bard เนื่องจากใช้สถาปัตยกรรมแบบ Mixture of Experts (MoE)
  • จุดแข็งของ Bard:
    • การเข้าถึงข้อมูล: Bard สามารถเข้าถึงข้อมูลจาก Google Search ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่
    • การผสานรวมกับบริการของ Google: Bard สามารถผสานรวมกับบริการอื่นๆ ของ Google เช่น Google Assistant, Google Translate, Google Docs
    • ความหลากหลายของภาษา: Bard รองรับภาษาต่างๆ มากกว่า DeepSeek-R1

DeepSeek vs. Claude 2 (Anthropic)

Claude 2 คือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย Anthropic บริษัท AI ที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงาน OpenAI

  • จุดแข็งของ DeepSeek:
    • ต้นทุนต่ำกว่า: DeepSeek-R1 ใช้ต้นทุนในการพัฒนาน้อยกว่า Claude 2
    • ความเร็วในการประมวลผล: DeepSeek-R1 อาจมีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงกว่า Claude 2
  • จุดแข็งของ Claude 2:
    • ความปลอดภัย: Anthropic ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และ จริยธรรม ในการพัฒนา AI
    • ความสามารถในการปรับแต่ง: Claude 2 สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับ งานเฉพาะด้าน ได้ดีกว่า DeepSeek-R1

DeepSeek vs. LLaMA 2 (Meta)

LLaMA 2 คือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ที่พัฒนาโดย Meta บริษัทแม่ของ Facebook เป็น Open-source AI

  • จุดแข็งของ DeepSeek:
    • ประสิทธิภาพในการประมวลผล: DeepSeek-R1 อาจมีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงกว่า LLaMA 2
    • ความง่ายในการใช้งาน: DeepSeek นำเสนอ AI ในรูปแบบที่ใช้งานง่าย เช่น เว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน
  • จุดแข็งของ LLaMA 2:
    • Open-source: LLaMA 2 เป็น Open-source AI ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปใช้งาน และ พัฒนาต่อยอดได้
    • ชุมชนผู้ใช้งานขนาดใหญ่: LLaMA 2 มีชุมชนผู้ใช้งานขนาดใหญ่ ที่ช่วยกันพัฒนา และ ปรับปรุง AI

โอกาสของ DeepSeek

  • การเติบโตของตลาด AI: ตลาด AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว DeepSeek มีโอกาสที่จะเติบโตไปพร้อมกับตลาด
  • การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน: DeepSeek ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ในการวิจัยและพัฒนา AI
  • ความมุ่งมั่นในการพัฒนา: DeepSeek ยังคงมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนา AI อย่างต่อเนื่อง

DeepSeek คือ AI ที่น่าจับตามอง มีจุดแข็ง เช่น ประสิทธิภาพสูง ต้นทุนต่ำ และ เข้าถึงง่าย DeepSeek มีโอกาสที่จะเติบโต และ แข่งขัน ในตลาด AI โลก แต่ก็ต้องเผชิญกับ ความท้าทาย เช่น การแข่งขันกับ AI ยักษ์ใหญ่ และ ข้อจำกัด ด้านภาษา และ วัฒนธรรม

DeepSeek กับผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และโอกาสของประเทศ

การมาถึงของ DeepSeek คือสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย DeepSeek-R1 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ทรงพลังและราคาประหยัด กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยี และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตของคนไทยในหลายมิติ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจผลกระทบของ DeepSeek ต่อประเทศไทย พร้อมวิเคราะห์โอกาสและความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเผชิญ

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

  • ภาคธุรกิจ:
    • เพิ่มประสิทธิภาพ: DeepSeek ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจไทย เช่น
      • การบริการลูกค้า: ใช้ DeepSeek สร้าง Chatbot ตอบคำถามลูกค้า
      • การตลาด: ใช้ DeepSeek วิเคราะห์ข้อมูล และ สร้างเนื้อหา
      • การเงิน: ใช้ DeepSeek วิเคราะห์ข้อมูล และ ตัดสินใจลงทุน
    • ความท้าทาย: ธุรกิจไทยต้องปรับตัวให้ทัน เรียนรู้ และ นำ DeepSeek มาใช้ประโยชน์ ธุรกิจที่ไม่ปรับตัว อาจเสียเปรียบในการแข่งขัน
  • ตลาดแรงงาน:
    • เพิ่มโอกาส: DeepSeek สร้างงาน และ อาชีพใหม่ๆ เช่น นักพัฒนา AI, นักวิเคราะห์ข้อมูล, และ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI
    • ความท้าทาย: แรงงานไทยต้องพัฒนาทักษะ เพื่อรองรับงานที่เกี่ยวข้องกับ AI แรงงานที่ไม่ปรับตัว อาจตกงาน
  • การศึกษา:
    • พัฒนาการเรียนรู้: DeepSeek ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ เช่น การสอนภาษา การสืบค้นข้อมูล และ การสร้างเนื้อหา
    • ความท้าทาย: ระบบการศึกษาไทยต้องปรับตัว เพื่อให้ DeepSeek เข้ามามีบทบาท ในการพัฒนาการเรียนรู้

ผลกระทบต่อสังคม

  • การสื่อสาร: DeepSeek ช่วยให้คนไทย สื่อสาร และ เข้าถึงข้อมูล ได้ง่ายขึ้น เช่น การแปลภาษา การสร้างเนื้อหา
  • การเข้าถึงบริการ: DeepSeek ช่วยให้คนไทย เข้าถึงบริการต่างๆ ได้สะดวกขึ้น เช่น บริการด้านสุขภาพ บริการด้านการเงิน
  • ความเหลื่อมล้ำ: DeepSeek อาจทำให้ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม รุนแรงขึ้น หาก คนไทย บางกลุ่ม ไม่สามารถเข้าถึง และ ใช้ประโยชน์จาก AI ได้

โอกาสของประเทศไทย

  • การเป็นศูนย์กลาง AI ในภูมิภาค: ประเทศไทยมีศักยภาพ ที่จะเป็นศูนย์กลาง AI ในภูมิภาค
    • แรงงานที่มีทักษะ: ประเทศไทยมี แรงงานที่มีทักษะ และ ความสามารถ
    • โครงสร้างพื้นฐาน: ประเทศไทยมี โครงสร้างพื้นฐาน ที่ เอื้อต่อการพัฒนา AI
  • การพัฒนาเศรษฐกิจ: DeepSeek ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจไทย
    • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: DeepSeek ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ของธุรกิจไทย
    • สร้างนวัตกรรม: DeepSeek กระตุ้นให้เกิด นวัตกรรม และ การพัฒนา AI ในประเทศไทย

ความท้าทายของประเทศไทย

  • การพัฒนากฎหมาย และ จริยธรรม: ประเทศไทยต้องพัฒนา กฎหมาย และ จริยธรรม ที่เกี่ยวข้องกับ AI
  • การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์: ประเทศไทยต้องพัฒนา ทักษะ และ ความรู้ ด้าน AI ให้กับ แรงงานไทย
  • การลดความเหลื่อมล้ำ: ประเทศไทยต้องลด ความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึง และ ใช้ประโยชน์จาก AI

บทความน่าสนใจเพิ่มเติม AI จะมาช่วยหรือมาทำให้คนตกงานกันแน่

DeepSeek กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลง ประเทศไทย ในหลายด้าน ประเทศไทยต้อง เตรียมพร้อมรับมือ และ ใช้ประโยชน์จาก AI อย่างชาญฉลาด เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และ คุณภาพชีวิต ของคนไทย

DeepSeek คือ AI รุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ด้วยประสิทธิภาพสูง ต้นทุนต่ำ และเข้าถึงง่าย DeepSeek กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของ AI และมีศักยภาพที่จะกลายเป็นผู้นำในวงการ AI ในอนาคตอันใกล้นี้

 

เกี่ยวกับเรา

เราคือใคร

บริษัท แพลตฟอร์ม 29 จำกัด เราเป็นบริษัทให้บริการสร้างและดูแลเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ระบบขายของออนไลน์ เรามีความชำนาญและเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างสรรค์เว็บไซต์ และออกแบบให้เหมาะสมแก่ทุกประเภทธุรกิจ

ให้บริการเกี่ยวกับอะไร
– สร้าง, อัพเดท, ดูแลเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นทุกประเภทธุรกิจ
– บริการทำ SEO/SEM
– ทำแคมเปญโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ
ข้อมูลติดต่อ

บริษัท แพลตฟอร์ม 29 จำกัด

98/147 หมู่ที่ 2 ถนนหนามแดง ต.บางแก้ว อ.บางพลี 10540 จังหวัดสมุทรปราการ
ฝากข้อมูลถึงเรา
seers cmp badge
Scroll to Top

เริ่มแคมเปญกับเรา

นัดหมายประชุมการจัดทำเว็บไซต์หรือการทำการตลาดออนไลน์กับเรา