6 เทรนด์การตลาด ‘ที่ไม่ปรับ = ถูกทิ้ง’

หัวข้อเนื้อหา

🌊 6 เทรนด์การตลาด ‘ที่ไม่ปรับ = ถูกทิ้ง’ ในยุค AI ครองโลก! 🚀 (ฉบับคุยง่ายๆ)

ถ้าคุณยังทำการตลาดแบบเดิมๆ อยู่ล่ะก็… บอกเลยว่าคุณตามหลังแล้ว! ปีนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของการปรับตัวนะ แต่มันคือการ เร่งสปีด! เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะว่า:

  1. 🤖 AI กำลังจะมาแทน: มันฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และค่าใช้จ่ายถูกลง
  2. 🤯 คนสมาธิสั้นลง: คลิปสั้นๆ คือสิ่งที่คนสนใจตอนนี้
  3. 💸 ค่าโฆษณาแพงหูฉี่: ถ้าไม่มีข้อมูลลูกค้าของตัวเอง ก็เสียเปรียบสุดๆ!

แบรนด์ไหนไม่ยอมเปลี่ยนก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังนะ! แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ ผมมี “เคล็ดลับเด็ดๆ” ที่เอามาจากรายงาน HubSpot State of Marketing (ที่สำรวจนักการตลาดกว่า 1,200 คนทั่วโลก!) มาให้คุณเอาไปใช้แซงหน้าคู่แข่งกันเลย!

💡 6 เทรนด์การตลาดที่ ‘ห้ามพลาด’ (สรุปมาให้จาก HubSpot)

1. 🤖 Trend 1: AI Marketing Takeover (ยุคที่ AI เข้ามาครองเกมการตลาด)

การตลาดไม่ได้มีแค่เรื่องความคิดสร้างสรรค์แล้วล่ะครับ แต่มันคือเรื่องของ ความเร็วและประสิทธิภาพ ด้วย AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือช่วยนะ แต่เป็น ‘หัวใจสำคัญ’ เลยล่ะ! มันช่วยให้เราปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดได้แบบเรียลไทม์เลยนะ อย่างเช่น การลองตั้งหัวข้ออีเมลเป็นร้อยๆ แบบในพริบตาเดียว, การปรับราคาโฆษณาแบบอัตโนมัติตามพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคน, หรือแม้แต่การเดาได้ว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าอะไรต่อไป

ความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุด: คือการที่เราใช้ AI แค่นิดๆ หน่อยๆ หรือใช้แค่ตอนเริ่มต้นเท่านั้น ในขณะที่คู่แข่งเขาเอา AI ไปช่วยจัดการงานหนักๆ ที่ต้องใช้เวลานานไปแล้ว (อย่างการแบ่งกลุ่มลูกค้าอัตโนมัติ) ถ้าไม่ยอมใช้ AI นะ คุณกำลังทำให้คู่แข่ง “ประหยัดเวลาและเงินมากกว่า 50%” ในงานเดิมๆ เลยนะ!

วิธีรับมือแบบเจาะลึกที่ต้องทำ:

  • ⚡ อัปเกรดการใช้ AI: จากแค่สร้างคอนเทนต์ ลองให้มัน ‘ปรับปรุงประสิทธิภาพ’ ให้เราดูสิ (เช่น วิเคราะห์ว่าคอนเทนต์แบบไหนทำได้ดีที่สุดบนแพลตฟอร์มไหน)
  • 🧠 ตัดสินใจจากข้อมูลจริงๆ: ใช้ AI วิเคราะห์รายงานการตลาดของเราเลย แล้วหา ‘จุดอ่อน’ หรือ ‘โอกาส’ ที่เรามองไม่เห็น เพื่อจะได้ลงทุนในช่องทางที่คุ้มค่าที่สุดเท่านั้น!
  • 📚 ฝึกใช้ Prompt Engineering: ฝึกคุยกับ AI ให้เป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น เพื่อให้มันทำงานได้ตรงใจเราสุดๆ ไปเลย (เช่น บอกให้ AI สร้างแคมเปญโฆษณาที่เน้นสร้าง Awareness ให้กลุ่ม Gen Z โดยใช้ภาษาแบบ TikToks!)

2. ⚡ Trend 2: Capturing Attention in a Crowded Space (จะดึงความสนใจยังไงในโลกที่วุ่นวาย)

ในยุคที่ข้อมูลท่วมท้นไปหมด คนเราสมาธิสั้นลงสุดๆ! ทำให้การตลาดแบบขายตรงๆ ตรงๆ ไม่ได้ผลอีกแล้วนะ แพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง TikTok, IG Reels, และ YouTube Shorts ก็เลยให้รางวัลกับ ‘คอนเทนต์ที่ทำให้คนดูนานๆ’ นั่นหมายความว่า การที่เราทำให้คนดูวิดีโอเราจนจบหรือคอมเมนต์/แชร์ สำคัญกว่าแค่ยอดไลก์หรือยอดคลิกเยอะเลย!

หัวใจสำคัญ: คือการเปลี่ยนจาก ‘การทำคอนเทนต์ขายของ’ เป็น ‘การเล่าเรื่องที่น่าติดตาม’ เพื่อดึงคนให้อยู่กับเรานานขึ้น วิดีโอสั้นๆ ก็เหมือน ‘ตะขอ’ ที่เกี่ยวคนใหม่ๆ เข้ามาอย่างรวดเร็ว ส่วน วิดีโอยาวๆ (อย่างพวก YouTube หรือ Podcast) นี่แหละ ที่จะ ‘สร้างความไว้ใจ’ และแสดงให้เห็นว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริง!

วิธีรับมือแบบเจาะลึกที่ต้องทำ:

  • 🔄 สร้างคอนเทนต์ชุดใหญ่: ลองแปลงเนื้อหาชิ้นเดียวให้เป็นหลายๆ แบบสิ! อย่างสัมมนา Webinar 1 ชั่วโมง (วิดีโอยาว) ก็เอามาตัดเป็นคลิปสั้นๆ 10 คลิป (วิดีโอสั้น) แล้วถอดเสียงออกมาเป็น Blog Post อีกทีก็ได้!
  • 📈 ตามติด Watch Time อย่างจริงจัง: ดูว่าคนดูวิดีโอเราจนจบกี่เปอร์เซ็นต์ และดูเฉลี่ยคนละกี่นาที สำคัญกว่ายอดวิวนะ!
  • 🎙️ พัฒนา Tone of Voice: ทำให้คอนเทนต์ของเราฟังดูเหมือนบทสนทนาที่น่าสนใจและเป็นกันเอง ไม่ใช่การอ่านสคริปต์บริษัทแบบทางการ

3. 🛡️ Trend 3: First-Party Data & The Trust Crisis (ข้อมูลลูกค้า และความไว้ใจที่กำลังหายไป)

ยุคที่เราจะพึ่งพาข้อมูลจากคุกกี้ต่างๆ กำลังจะจบลงแล้วนะ! การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ค่าโฆษณาแพงขึ้นมากๆ เลย เพราะแบรนด์ต่างๆ กำหนดเป้าหมายได้ไม่แม่นยำเหมือนเมื่อก่อน ‘ข้อมูลลูกค้าของเราเอง’ เลยกลายเป็น ‘สมบัติที่ล้ำค่าที่สุด’ ในโลกการตลาดสมัยนี้

ความหมายที่แท้จริง: ข้อมูลลูกค้าของเราเองไม่ได้มีแค่อีเมลนะ แต่มันคือทุกพฤติกรรมที่ลูกค้าให้เรามาโดยตรง (เช่น ประวัติการซื้อ, สินค้าที่เคยดู, คำตอบแบบสอบถาม) การที่เรามีข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราส่งข้อความที่ Personalize หรือปรับให้เข้ากับแต่ละคนได้ดีขึ้น ซึ่งทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นและค่าโฆษณาก็ลดลงด้วยนะ (เพราะไม่ต้องไปซื้อข้อมูลจากที่อื่นไง)

วิธีรับมือแบบเจาะลึกที่ต้องทำ:

  • 🔒 สร้างข้อเสนอที่น่าสนใจเพื่อแลกข้อมูล: ลองเสนอของฟรี, E-book เจ๋งๆ, หรือ ‘ส่วนลดลับ’ เพื่อดึงให้คนอยากจะยอมให้ข้อมูลอีเมลกับเราสิ
  • 📣 สื่อสารเรื่องการใช้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา: บอกลูกค้าเลยว่าข้อมูลของพวกเขาจะถูกนำไปใช้เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นได้อย่างไร (เช่น การส่งโปรโมชั่นที่ถูกใจที่สุดให้) จะช่วยสร้างความไว้ใจในระยะยาวนะ
  • 📊 ใช้ CRM เป็นศูนย์กลาง: รวบรวมข้อมูลลูกค้าทั้งหมดของเราไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ทีมการตลาดดึงข้อมูลพฤติกรรมมาใช้สร้างแคมเปญที่แม่นยำและถูกจังหวะเวลา

4. 🎬 Trend 4: Brands as Content Creators (แบรนด์ต้องเป็น ‘นักสร้างสรรค์’)

คนเราเบื่อโฆษณาแบบเก่าๆ แล้วนะ! แต่รู้มั้ยว่า คนเชื่อถือ ‘คนจริงๆ’ มากกว่า ‘บริษัท’ แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในตอนนี้เลยไม่ได้เป็นแค่นักโฆษณา แต่เป็นนักสร้างคอนเทนต์ที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น

สร้างความเชื่อมโยง: แบรนด์ต้องเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นแค่ผู้ขายที่เย็นชาๆ มาเป็น ‘เพื่อนที่คอยให้คำแนะนำ’ หรือ ‘คนสร้างความบันเทิง’ ดูสิ! แคมเปญโฆษณาที่ใช้คอนเทนต์จากลูกค้าจริงๆ หรือร่วมงานกับ Micro-Influencers มักจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าโฆษณาที่ทำมาแพงๆ ถึง 3 เท่าเลยนะ เพราะมันดู ‘ของจริง’ และดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

วิธีรับมือแบบเจาะลึกที่ต้องทำ:

  • 🎭 หา ‘บุคลิก’ ของแบรนด์ตัวเองให้เจอ: แบรนด์เราเป็นคนตลกมั้ย? เป็นคนให้ความรู้อย่างจริงจัง? หรือเป็นเพื่อนที่คอยให้กำลังใจ? การมีบุคลิกที่ชัดเจนจะทำให้คนจดจำได้ง่ายขึ้นนะ
  • 🤝 สร้างสัมพันธ์กับ Micro-Influencers: แทนที่จะทุ่มเงินกับเซเลบริตี้ ลองลงทุนกับ Influencers ตัวเล็กๆ ที่มีฐานแฟนคลับเฉพาะกลุ่มดูสิ พวกเขาจะได้รับการไว้ใจในชุมชนของตัวเองมากกว่าเยอะเลย
  • 🎥 เปิดเผย ‘เบื้องหลัง’: ลองโชว์กระบวนการทำงาน, ความทุ่มเท, หรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ้างสิ จะช่วยสร้างความรู้สึกว่าแบรนด์นั้นจับต้องได้และมีความจริงใจนะ

5. ⚙️ Trend 5: AI-Powered Ad Targeting (ให้ AI มาจัดการโฆษณาให้เรา)

การลงโฆษณาแบบเดิมๆ ที่ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์เพื่อทดสอบ A/B Test กำลังจะล้าสมัยไปแล้ว AI เข้ามาเปลี่ยนเกมการซื้อโฆษณาให้เป็นระบบอัจฉริยะแบบอัตโนมัติ! แพลตฟอร์มต่างๆ อย่าง Meta’s Advantage+ และ Google’s Performance Max ไม่ได้แค่ช่วยแสดงโฆษณาให้เรานะ แต่พวกเขากำลัง ‘เรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง’ ตลอดเวลา

พลังของการเรียนรู้แบบ Real-Time: AI สามารถทดสอบชุดโฆษณา, กลุ่มเป้าหมาย, และตำแหน่งการแสดงผลได้เป็นพันๆ แบบในเวลาเดียวกัน แล้วมันก็จะตัดสินใจได้ทันทีว่าควรทุ่มงบไปที่โฆษณาไหนที่ได้ผลดีที่สุด การทำงานของ AI จะช่วยให้เงินของเราถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพสุดๆ แถมยังไม่ต้องมานั่งเดาหรือตั้งค่าอะไรที่ยุ่งยากด้วยนะ

วิธีรับมือแบบเจาะลึกที่ต้องทำ:

  • trust the Algorithm: ลองเชื่อใจให้ AI จัดการบ้างสิ (เช่น การใช้ Broad Targeting ที่เปิดโอกาสให้ AI หาคนที่ใช่ให้เราเอง) แทนที่จะตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่แคบเกินไป
  • 🎨 สร้างคลังโฆษณา (Creative Feed): เตรียมรูปภาพ/วิดีโอ/ข้อความหลากหลายแบบในแคมเปญให้พอ เพื่อให้ AI มีวัตถุดิบมากพอในการทดสอบและค้นหาโฆษณาที่ชนะ
  • ⚖️ เปรียบเทียบผลลัพธ์ให้ชัดเจน: ลองรันแคมเปญสองเวอร์ชั่นสิ! อันนึงตั้งค่าเอง อีกอันใช้ AI จัดการ แล้วดูว่าอันไหนได้ผลดีกว่ากัน

6. 🔍 Trend 6: The SEO Shift to Social Platforms (ย้าย SEO ไปอยู่บนโซเชียลมีเดีย)

คำว่า ‘Search Engine Optimization (SEO)’ ไม่ได้จำกัดแค่ใน Google แล้วนะ! ตอนนี้คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ Gen Z ใช้ช่องค้นหาใน TikTok และ Instagram เป็นเครื่องมือหลักในการ ‘หาข้อมูลสินค้าและแบรนด์ใหม่ๆ’ แทนการใช้ Google แล้ว!

ทำไมถึงเปลี่ยน? ก็เพราะว่าคนกลุ่มนี้มองหา ‘คำตอบที่มาในรูปแบบวิดีโอที่เข้าใจง่าย’ และ ‘ประสบการณ์จริงจากผู้ใช้คนอื่นๆ’ มากกว่าการอ่านบทความยาวๆ การค้นหาบนโซเชียลเลยให้ผลลัพธ์ที่ “เป็นรูปภาพและเป็นมนุษย์” มากกว่า

ความท้าทายใหม่: คือการทำ ‘Social SEO’ ซึ่งต่างจาก SEO แบบเดิมที่เน้น Backlinks แต่ Social SEO จะเน้นการใส่ ‘คำค้นหา’ ลงไปในทุกองค์ประกอบของวิดีโอ (เช่น ข้อความบนหน้าจอ, แคปชัน, แฮชแท็ก, และเสียงพูด) เพื่อให้ AI ของแพลตฟอร์มเข้าใจเนื้อหาของเราและจัดอันดับได้ถูกต้อง

วิธีรับมือแบบเจาะลึกที่ต้องทำ:

  • 🕵️ ทำ Keyword Research บน TikTok: ลองพิมพ์คำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราลงในช่องค้นหาของ TikTok ดูสิ แล้วดูว่ามีคำไหนขึ้นมาอัตโนมัติ นั่นแหละ Keywords ที่คนกำลังค้นหาอยู่!
  • 🖼️ เน้นข้อความบนหน้าจอและซับไตเติล: ให้ความสำคัญกับการใส่ข้อความ (Overlay Text) ที่มี Keyword สำคัญๆ ลงไปในวิดีโอ เพราะ Algorithm ของ TikTok และ Instagram จะ ‘อ่าน’ ข้อความพวกนั้นด้วยนะ!
  • 🚀 ใช้ Hashtag ที่เจาะจงและกำลังเป็นเทรนด์: ใช้ Hashtag ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรามากๆ และตามติด Hashtag ที่กำลังเป็นกระแสบนแพลตฟอร์มนั้นๆ แทนที่จะใช้แค่ Hashtag ทั่วไป

คำเตือนจาก CMO ของ HubSpot: “นักการตลาดต้องคิดว่า ‘อีกหนึ่งปีข้างหน้า ฉันจะรู้สึกว่าฉันเรียนรู้, ทดสอบ, และพัฒนาตัวเองพอแล้วหรือยัง เพื่อที่จะตามทันโลกที่เปลี่ยนไปนี้?'”

🚨 ถ้าคำตอบคือ ‘ไม่’ คุณต้องรีบปรับ Mindset, เปิดใจรับเทคโนโลยีใหม่ๆ, และ ‘กล้าที่จะลงมือทำอย่างรวดเร็ว’ ไม่อย่างนั้น… คุณเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังนะ!

ขอบคุณครับเนื้อหาจาก 6 Marketing Trends You Need to Know in 2025

seers cmp badge
Scroll to Top

ขอใบเสนอราคา

นัดหมายประชุมการจัดทำเว็บไซต์หรือการทำการตลาดออนไลน์กับเรา